
อาการ rsv ในเด็กอาการคล้ายไข้หวัด ผู้ป่วยมีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล อาจส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนล่างมีการอักเสบ ทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ ในรายที่อาการรุนแรง อาจมีไข้สูง ไอแรง หายใจมีเสียงครืดคราด หอบเหนื่อย หากผู้ป่วยมีไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส ไอจนอาเจียน หายใจเร็ว หอบจนชายโครงหรืออกบุ๋ม หายใจแล้วมีเสียงวี้ด รับประทานอาหารหรือนมได้น้อย ต้องพึงระวัง เพราะผู้ป่วยที่มีอาการหนักอาจเสียชีวิตเนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้
RSV สามารถติดต่อจากผู้ใหญ่สู่เด็กได้ง่าย
โดยเฉพาะเมื่อผู้ใหญ่ที่เป็นพาหะพบเห็นเด็กแล้วเอามือไปจับแก้ม หอมแก้มเด็ก โดยไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายให้ดีเสียก่อน ก็อาจทำให้เด็กได้รับเชื่ออย่างไม่ทันรู้ตัว
RSV สามารถป้องกันการติดเชื้อ
โดยการหมั่นล้างมือของตัวเองและของเด็ก ๆ เพราะการล้างมือจะทำให้เชื้อที่ติดมากับมือลดน้อยลง รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ บ้านใดที่มี อาการ rsv ในเด็ก แนะนำให้แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติและให้เด็กป่วยหยุดเรียนเพื่อลดการนำเชื้อไปแพร่สู่เพื่อนที่โรงเรียน

อาการ RSV ในเด็ก สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างได้ผล
เชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นสาเหตุหลักของโรคระบบทางเดินหายใจในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวและปลายฝน ถึงแม้จะเป็นโรคที่พบบ่อย แต่ก็สามารถป้องกันและดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากรู้จักอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างถูกวิธี
อาการ RSV ในเด็ก มีอะไรบ้าง
อาการของโรค RSV ในเด็กอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละราย แต่โดยทั่วไปมักมีอาการดังนี้
- ไอเรื้อรังและมีเสมหะมาก
- มีไข้ต่ำถึงปานกลาง
- หายใจลำบาก หอบเหนื่อย หายใจเร็ว
- จมูกอักเสบ คัดจมูก
- มีเสียงหวีดหรือเสียงวี้ดขณะหายใจ (Wheezing)
- เบื่ออาหาร หงุดหงิด งอแง
- ในกรณีรุนแรง อาจเกิดภาวะหายใจลำบากหรือปอดอักเสบ
สาเหตุของ RSV ในเด็ก
เชื้อไวรัส RSV ติดต่อได้ง่ายและเป็นสาเหตุหลักของโรคทางเดินหายใจในเด็กเล็ก โดยสาเหตุหลักได้แก่
- การสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจของผู้ป่วย RSV เช่น น้ำมูก เสมหะ ไอจาม
- การใช้ของใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าห่ม ของเล่นมือหยิบจับบ่อย ๆ
- การอยู่ในสถานที่แออัด เช่น โรงเรียน คลินิก สถานรับเลี้ยงเด็ก
- การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสเด็กเล็ก
วิธีป้องกัน RSV ในเด็กอย่างได้ผล
เพื่อป้องกันการติดเชื้อ RSV และลดความเสี่ยงในการเกิดโรครุนแรง ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้
1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม
3. ทำความสะอาดของใช้ ของเล่น ของใช้ส่วนตัวของเด็กเป็นประจำ
4. ระมัดระวังในสถานที่แออัด ควรเว้นระยะห่างจากผู้ป่วย
5. สวมหน้ากากอนามัยให้กับผู้ดูแลเด็กและผู้ป่วย
6. ให้เด็กพักผ่อนเพียงพอ และเสริมภูมิคุ้มกันด้วยอาหารที่มีประโยชน์
7. สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงสูง เช่น น้ำหนักน้อย คลอดก่อนกำหนด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกัน RSV (ถ้ามี)
เมื่อเด็กมีอาการควรรีบพบแพทย์ทันที
หากเด็กมีอาการไอเรื้อรัง หายใจเร็ว หอบเหนื่อย หรืองอแงผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม อย่าเพิกเฉยต่ออาการรุนแรง เพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ คลินิกเด็ก เปิด 24 ชั่วโมง ใกล้ ฉัน
RSV สามารถติดต่อจากผู้ใหญ่สู่เด็กได้ง่าย
โดยเฉพาะเมื่อผู้ใหญ่ที่เป็นพาหะพบเห็นเด็กแล้วเอามือไปจับแก้ม หอมแก้มเด็ก โดยไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายให้ดีเสียก่อน ก็อาจทำให้เด็กได้รับเชื่ออย่างไม่ทันรู้ตัว
RSV สามารถป้องกันการติดเชื้อ
โดยการหมั่นล้างมือของตัวเองและของเด็ก ๆ เพราะการล้างมือจะทำให้เชื้อที่ติดมากับมือลดน้อยลง รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ บ้านใดที่มี อาการ rsv ในเด็ก แนะนำให้แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติและให้เด็กป่วยหยุดเรียนเพื่อลดการนำเชื้อไปแพร่สู่เพื่อนที่โรงเรียน

อาการ RSV ในเด็ก สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างได้ผล
เชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นสาเหตุหลักของโรคระบบทางเดินหายใจในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวและปลายฝน ถึงแม้จะเป็นโรคที่พบบ่อย แต่ก็สามารถป้องกันและดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากรู้จักอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างถูกวิธี
อาการ RSV ในเด็ก มีอะไรบ้าง
อาการของโรค RSV ในเด็กอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละราย แต่โดยทั่วไปมักมีอาการดังนี้
- ไอเรื้อรังและมีเสมหะมาก
- มีไข้ต่ำถึงปานกลาง
- หายใจลำบาก หอบเหนื่อย หายใจเร็ว
- จมูกอักเสบ คัดจมูก
- มีเสียงหวีดหรือเสียงวี้ดขณะหายใจ (Wheezing)
- เบื่ออาหาร หงุดหงิด งอแง
- ในกรณีรุนแรง อาจเกิดภาวะหายใจลำบากหรือปอดอักเสบ
สาเหตุของ RSV ในเด็ก
เชื้อไวรัส RSV ติดต่อได้ง่ายและเป็นสาเหตุหลักของโรคทางเดินหายใจในเด็กเล็ก โดยสาเหตุหลักได้แก่
- การสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจของผู้ป่วย RSV เช่น น้ำมูก เสมหะ ไอจาม
- การใช้ของใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าห่ม ของเล่นมือหยิบจับบ่อย ๆ
- การอยู่ในสถานที่แออัด เช่น โรงเรียน คลินิก สถานรับเลี้ยงเด็ก
- การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสเด็กเล็ก
วิธีป้องกัน RSV ในเด็กอย่างได้ผล
เพื่อป้องกันการติดเชื้อ RSV และลดความเสี่ยงในการเกิดโรครุนแรง ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้
1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม
3. ทำความสะอาดของใช้ ของเล่น ของใช้ส่วนตัวของเด็กเป็นประจำ
4. ระมัดระวังในสถานที่แออัด ควรเว้นระยะห่างจากผู้ป่วย
5. สวมหน้ากากอนามัยให้กับผู้ดูแลเด็กและผู้ป่วย
6. ให้เด็กพักผ่อนเพียงพอ และเสริมภูมิคุ้มกันด้วยอาหารที่มีประโยชน์
7. สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงสูง เช่น น้ำหนักน้อย คลอดก่อนกำหนด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกัน RSV (ถ้ามี)
เมื่อเด็กมีอาการควรรีบพบแพทย์ทันที
หากเด็กมีอาการไอเรื้อรัง หายใจเร็ว หอบเหนื่อย หรืองอแงผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม อย่าเพิกเฉยต่ออาการรุนแรง เพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ คลินิกเด็ก เปิด 24 ชั่วโมง ใกล้ ฉัน
30 มิ.ย. 2568 - เวลา 13:32 น.