กรมธรรม์เดียว ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มครองและภาษีการซื้อ กรมธรรม์ประกันชีวิต ไม่ได้เป็นเพียงการจ่ายเบี้ยประกันทิ้งไปเปล่า ๆ แต่มันคือการ วางแผนประกันชีวิต เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และยังเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการ ลดหย่อนภาษี ประจำปีอีกด้วย แต่ก่อนจะตัดสินใจเซ็นสัญญา ควรทำความเข้าใจกับประเภทของประกันและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
1. ทำความรู้จัก "แบบกรมธรรม์" พื้นฐานที่นิยมในปัจจุบัน
การเลือก แบบกรมธรรม์ ให้ตรงกับเป้าหมายชีวิตเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก:
• แบบตลอดชีพ : เน้นความคุ้มครองระยะยาว มักคุ้มครองถึงอายุ 90 หรือ 99 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างมรดกให้คนข้างหลัง
• แบบสะสมทรัพย์ : เน้นการออมเงิน มีเงินคืนระหว่างทางหรือเมื่อครบสัญญา เหมาะกับผู้ที่ต้องการวินัยการออมและผลตอบแทนที่แน่นอน
• แบบชั่วระยะเวลา : จ่ายเบี้ยต่ำแต่ได้ความคุ้มครองสูงในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 10 ปี, 20 ปี) เหมาะสำหรับหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการคุ้มครองหนี้สินหรือภาระหนักในช่วงเวลาหนึ่ง
• แบบบำนาญ : ออกแบบมาเพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ โดยบริษัทจะจ่ายเงินคืนให้เป็นรายปีหลังจากผู้เอาประกันอายุ 55 หรือ 60 ปีขึ้นไป

2. วางแผนประกันชีวิตให้ตอบโจทย์ช่วงวัย
การ วางแผนประกันชีวิต ที่ดีควรเริ่มจากการประเมิน "ภาระ" และ "เป้าหมาย" ของเรา:
• เริ่มทำงาน : แนะนำแบบสะสมทรัพย์เพื่อเริ่มออมเงินและลดหย่อนภาษี
• หัวหน้าครอบครัว: ควรเน้นความคุ้มครองสูง (แบบตลอดชีพหรือชั่วระยะเวลา) เพื่อให้คนข้างหลังไม่ลำบาก
• วัยใกล้เกษียณ: เน้นแบบบำนาญเพื่อเตรียมกระแสเงินสดไว้ใช้ในยามที่ไม่มีรายได้หลัก
3. เทคนิคลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันชีวิต
หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ "ประกันชีวิตลดหย่อนได้เท่าไหร่" สรุปเงื่อนไขสำคัญได้ดังนี้
ประเภทประกัน วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด เงื่อนไขสำคัญ
ประกันชีวิตทั่วไป / สะสมทรัพย์ 100,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
ประกันสุขภาพตนเอง 25,000 บาท เมื่อรวมกับประกันชีวิตทั่วไป ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ประกันชีวิตแบบบำนาญ 200,000 บาท ไม่เกิน 15% ของเงินได้ (และเมื่อรวมกองทุนเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
การเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นเรื่องของความสบายใจในอนาคต หากเริ่มต้นวางแผนประกันชีวิต ตั้งแต่วันนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการ ลดหย่อนภาษี เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเกราะป้องกันทางการเงินให้กับตัวเองและคนที่รักอย่างยั่งยืน
1. ทำความรู้จัก "แบบกรมธรรม์" พื้นฐานที่นิยมในปัจจุบัน
การเลือก แบบกรมธรรม์ ให้ตรงกับเป้าหมายชีวิตเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก:
• แบบตลอดชีพ : เน้นความคุ้มครองระยะยาว มักคุ้มครองถึงอายุ 90 หรือ 99 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างมรดกให้คนข้างหลัง
• แบบสะสมทรัพย์ : เน้นการออมเงิน มีเงินคืนระหว่างทางหรือเมื่อครบสัญญา เหมาะกับผู้ที่ต้องการวินัยการออมและผลตอบแทนที่แน่นอน
• แบบชั่วระยะเวลา : จ่ายเบี้ยต่ำแต่ได้ความคุ้มครองสูงในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 10 ปี, 20 ปี) เหมาะสำหรับหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการคุ้มครองหนี้สินหรือภาระหนักในช่วงเวลาหนึ่ง
• แบบบำนาญ : ออกแบบมาเพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ โดยบริษัทจะจ่ายเงินคืนให้เป็นรายปีหลังจากผู้เอาประกันอายุ 55 หรือ 60 ปีขึ้นไป

2. วางแผนประกันชีวิตให้ตอบโจทย์ช่วงวัย
การ วางแผนประกันชีวิต ที่ดีควรเริ่มจากการประเมิน "ภาระ" และ "เป้าหมาย" ของเรา:
• เริ่มทำงาน : แนะนำแบบสะสมทรัพย์เพื่อเริ่มออมเงินและลดหย่อนภาษี
• หัวหน้าครอบครัว: ควรเน้นความคุ้มครองสูง (แบบตลอดชีพหรือชั่วระยะเวลา) เพื่อให้คนข้างหลังไม่ลำบาก
• วัยใกล้เกษียณ: เน้นแบบบำนาญเพื่อเตรียมกระแสเงินสดไว้ใช้ในยามที่ไม่มีรายได้หลัก
3. เทคนิคลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันชีวิต
หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ "ประกันชีวิตลดหย่อนได้เท่าไหร่" สรุปเงื่อนไขสำคัญได้ดังนี้
ประเภทประกัน วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด เงื่อนไขสำคัญ
ประกันชีวิตทั่วไป / สะสมทรัพย์ 100,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
ประกันสุขภาพตนเอง 25,000 บาท เมื่อรวมกับประกันชีวิตทั่วไป ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ประกันชีวิตแบบบำนาญ 200,000 บาท ไม่เกิน 15% ของเงินได้ (และเมื่อรวมกองทุนเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
การเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นเรื่องของความสบายใจในอนาคต หากเริ่มต้นวางแผนประกันชีวิต ตั้งแต่วันนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการ ลดหย่อนภาษี เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเกราะป้องกันทางการเงินให้กับตัวเองและคนที่รักอย่างยั่งยืน
25 ธ.ค. 2568 - เวลา 23:09 น.








